วันอาทิตย์, มกราคม 08, 2555
Rule of baduk - กติกาการเล่นหมากล้อม
ถ้าพึ่งหัดเล่น และยังไม่รู้กติกาโกะอะไรเลย ให้ศึกษาเรียงลำดับตามนี้ทีละข้อ เพื่อความเข้าใจก่อนการเล่นหมากล้อม
ส่วนใครถ้าเคยได้ยินกติกาหมากล้อมมาบ้าง
ก็อยากแนะนำให้ศึกษาอีกครั้งนึง เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในการเล่นหมากล้อมครับ
*** กติกา หมากล้อมที่สำคัญ
[ การเล่นและการตัดสิน ]
[ ลักษณะกระดานโกะ ]
[ กติกาข้อหลัก ]
*** กติกา หมากล้อมข้อย่อย
[ กติกาในการเริ่มเกม ]
[ กติกาในการจับกิน ]
[ กติกาหมากเชลย ]
[ กติกาหมากเป็น-หมากตาย ]
[ การจบเกม ]
[ การนับคะแนนตัดสิน ]
*** กติกา หมากล้อมในสถานการณ์พิเศษ
[ กติกาสถานการณ์โคะ (Ko) ]
[ กติกาสถานการณ์ต่างรอด (Seki) ]
การเล่นและการตัดสิน
จุดประสงค์ของโกะ : ใช้หมากของตน ล้อมพื้นที่ว่างบนกระดาน ให้ได้ดินแดนของตนมากกว่าคู่ต่อสู้
กระดานโกะ : ขนาดมาตรฐานคือขนาด 19x19 จะมีเส้นแนวตั้ง 19 เส้น และแนวนอน 19 เส้น เกิดเป็นจุดตัด 361 จุดบนกระดาน ( * กระดานขนาด 19x19 หมายถึง มีด้านละ 19 เส้น ไม่ใช้ 19 ช่อง )
ผู้เล่น : จะแบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายขาวและฝ่ายดำ ฝ่ายขาวจะได้เม็ดหมากสีขาว และฝ่ายดำจะได้สีดำ
เม็ดหมากของ ทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องเดินบนกึ่งกลางจุดตัด ที่เกิดจากเส้นบนกระดานตัดกัน ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย สามารถวางหมากบนจุดตัดใด ๆ ก็ได้ บนกระดาน
วิธีเล่น : ใช้หมากของตน ล้อมพื้นที่ว่างให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้
การติดสินเกม : นับดินแดน ที่แต่ละฝ่ายล้อมได้ ใครได้ดินแดนมากกว่าเป็นผู้ชนะ (จะอธิบายวิธีการนับคะแนนอย่างละเอียดต่อไป)
[ Top ]
ลักษณะกระดานโกะ
นี่คือ ลักษณะ กระดานหมากล้อม (Goban) จะมี เส้นแนวตั้ง 19 เส้น และแนวนอน 19 เส้น (เมื่อนับ ช่องจะพบว่ามีด้านละ 18 ช่อง) จุดดำที่เห็นเด่นอยู่ 9 จุด เรียกว่า "จุดดาว (Hoshi)" จะใช้วางหมากต่อ ในเกม หมากต่อ (กติกาในเกมหมากต่อ จะอธิบายท้ายบท)
...ความจริงแล้ว กระดานหมากล้อมที่นิยมเล่นกันมีตั้งแต่ขนาด 9 x 9 , 13 x 13 และ 19 x 19 แต่ขนาดมาตรฐานคือ 19 x 19 กระดานเล็กส่วนมากใช้ฝึกหัดในการเล่นหมากล้อมสำหรับมือใหม่ครับ
[ Top ]
กติกาข้อหลัก
กติกาในการเริ่มเกม
กติกาในการจับกิน
รูปที่ 2.1
รูปนี้ เป็นตัวอย่างแสดงการกล่าวอะตาริ ดำวางหมากดำ 1 ซึ่งในตาเล่นของดำครั้ง ต่อไป ดำสามารถจับขาว 1 เม็ดกินได้ ด้วยการวางหมากที่จุด A เมื่อดำวาง ดำ 1 ดำจึงต้องกล่าวคำว่า "อะตาร"ิ ต่อฝ่ายขาว เพื่อเป็นการแสดงมารยาท
*จำไว้ว่า เมื่อคุณวางหมากที่สามารถจับหมากหรือกลุ่มหมากคู่ต่อสู้กินได้ในตาเดินครั้งต่อไป คุณจะต้องกล่าว "อะตาริ"
รูปที่ 2.2
รูปนี้ก็เช่นกัน ดำเล่นหมากที่ดำ 1 ขู่ว่า ในตาดำเล่นครั้งต่อไป ดำสามารถเล่นที่ A เพื่อจับขาว 1 เม็ดกินได้ ดำต้องกล่าว "อะตาริ"
รูปที่ 2.3
ตัวอย่างนี้ก็เช่นเดียวกัน ดำ 1 ขู่จะจับขาวกินในตาเล่นครั้งต่อไปที่จุด A ดำต้อง กล่าว "อะตาริ"
รูปที่ 2.4
เมื่อดำเล่นหมากที่ดำ 1 ในรูปนี้ ดำก็ต้องกล่าว "อะตาริ" เช่นกัน เพราะดำ 1 ขู่ว่า ดำสามารถจับขาว 1 เม็ดกินได้ด้วยการเล่นที่ A
รูปที่ 2.5
ในสถานการณ์แบบนี้ก็เช่นกัน เมื่อขาวเล่นที่ขาว 1 ขาวก็ต้องกล่าว "อะตาริ" เพราะ ในตาต่อไปขาวสามารถเล่นที่ A เพื่อจับดำทั้งกลุ่มกินได้
* เมื่อเดินหมากที่สามารถจับคู่ต่อสู้กิน ในการเดินครั้งต่อไปได้ จะต้องกล่าวคำว่า "อะตาริ"
[ Top ]
กติกาหมากเชลย
หมากเชลย คือ หมากหรือกลุ่มหมากที่ถูกจับกิน ต้องนำออกจากกระดานเป็นเชลยของฝ่ายตรงข้าม ( จะรวบรวมไว้ แล้วมีผลในการนับคะแนนตอนจบเกม ...รายละเอียดการนับคะแนน จะอธิบายในหัวข้อการนับ คะแนน ) หมากเชลยของดำ ก็คือหมากขาวที่ถูกดำจับกินได้ ส่วนหมากเชลยของขาว ก็คือหมากดำที่ถูกขาว จับกินได้ ...ตามมารยาทแล้ว ควรจะเก็บหมากเชลยไว้ในฝาของกระปุกเม็ดหมากของตน ใส่ไว้ให้คู่ต่อสู้มอง เห็นได้ชัดเจน ( ถ้าไม่มีฝากระปุกใส่เม็ดหมาก ก็ใส่ในที่อื่น ที่คู่ต่อสู้มองเห็นได้ชัดเจน )
[ Top ]
กติกาหมากเป็น-หมากตาย
การจบเกม
[ Top ]
การนับคะแนนตัดสิน
3.1 การนับแบบจีน จะไม่นำหมากเชลยมาหักลบออกจากคะแนนพื้นที่
3.2 การนับแบบจีน จะนับทั้งคะแนนพื้นที่และเม็ดหมากทั้งหมดที่อยู่บนกระดานด้วย
การนับทั้งแบบจีนและแบบญี่ปุ่น แม้รวมคะแนนแล้ว จะออกมาต่างกัน แต่ผลต่าง คะแนนแพ้ชนะจะเท่ากันเสมอครับ
[ Top ]
กติกาสถานการณ์โคะ (Ko)
กติกาสถานการณ์ต่างรอด (Seki)
ส่วนใครถ้าเคยได้ยินกติกาหมากล้อมมาบ้าง
ก็อยากแนะนำให้ศึกษาอีกครั้งนึง เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในการเล่นหมากล้อมครับ
*** กติกา หมากล้อมที่สำคัญ
[ การเล่นและการตัดสิน ]
[ ลักษณะกระดานโกะ ]
[ กติกาข้อหลัก ]
*** กติกา หมากล้อมข้อย่อย
[ กติกาในการเริ่มเกม ]
[ กติกาในการจับกิน ]
[ กติกาหมากเชลย ]
[ กติกาหมากเป็น-หมากตาย ]
[ การจบเกม ]
[ การนับคะแนนตัดสิน ]
*** กติกา หมากล้อมในสถานการณ์พิเศษ
[ กติกาสถานการณ์โคะ (Ko) ]
[ กติกาสถานการณ์ต่างรอด (Seki) ]
การเล่นและการตัดสิน
จุดประสงค์ของโกะ : ใช้หมากของตน ล้อมพื้นที่ว่างบนกระดาน ให้ได้ดินแดนของตนมากกว่าคู่ต่อสู้
กระดานโกะ : ขนาดมาตรฐานคือขนาด 19x19 จะมีเส้นแนวตั้ง 19 เส้น และแนวนอน 19 เส้น เกิดเป็นจุดตัด 361 จุดบนกระดาน ( * กระดานขนาด 19x19 หมายถึง มีด้านละ 19 เส้น ไม่ใช้ 19 ช่อง )
ผู้เล่น : จะแบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายขาวและฝ่ายดำ ฝ่ายขาวจะได้เม็ดหมากสีขาว และฝ่ายดำจะได้สีดำ
เม็ดหมากของ ทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องเดินบนกึ่งกลางจุดตัด ที่เกิดจากเส้นบนกระดานตัดกัน ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย สามารถวางหมากบนจุดตัดใด ๆ ก็ได้ บนกระดาน
วิธีเล่น : ใช้หมากของตน ล้อมพื้นที่ว่างให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้
การติดสินเกม : นับดินแดน ที่แต่ละฝ่ายล้อมได้ ใครได้ดินแดนมากกว่าเป็นผู้ชนะ (จะอธิบายวิธีการนับคะแนนอย่างละเอียดต่อไป)
[ Top ]
ลักษณะกระดานโกะ
นี่คือ ลักษณะ กระดานหมากล้อม (Goban) จะมี เส้นแนวตั้ง 19 เส้น และแนวนอน 19 เส้น (เมื่อนับ ช่องจะพบว่ามีด้านละ 18 ช่อง) จุดดำที่เห็นเด่นอยู่ 9 จุด เรียกว่า "จุดดาว (Hoshi)" จะใช้วางหมากต่อ ในเกม หมากต่อ (กติกาในเกมหมากต่อ จะอธิบายท้ายบท)
...ความจริงแล้ว กระดานหมากล้อมที่นิยมเล่นกันมีตั้งแต่ขนาด 9 x 9 , 13 x 13 และ 19 x 19 แต่ขนาดมาตรฐานคือ 19 x 19 กระดานเล็กส่วนมากใช้ฝึกหัดในการเล่นหมากล้อมสำหรับมือใหม่ครับ
[ Top ]
กติกาข้อหลัก
-
- ทั้ง 2 ฝ่ายจะวางหมากที่จุดตัดใดก็ได้บนกระดาน แต่ต้องไม่ทับจุดที่มีหมากของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง วางอยู่ก่อนแล้ว
- เมื่อวางหมากแล้ว หมากจะไม่มีการเดินเลื่อนเหมือนหมากรุก เมื่อวางหมากจุดใดแล้ว จะไม่ สามารถเคลื่อนไปจุดอื่นได้เป็นอันขาด
ยกเว้น : หมากถูกจับกินจะต้องเป็นเชลยของฝ่ายตรงข้ามทันที ( จะอธิบายละเอียดในหัวข้อกติกา การจับกิน) - ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย ต้องพยายามใช้หมากของตนเอง ล้อมพื้นที่ว่างให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้
- นับคะแนนตัดสิน โดยนับว่าฝ่ายใด ล้อมพื้นที่ว่างได้มากกว่า จะเป็นฝ่ายชนะ ( จะอธิบายการ นับ คะแนนโดยละเอียดท้ายบท )
กติกาในการเริ่มเกม
- กระดานจะต้องว่างเปล่าเมื่อเริ่มเกม (ยกเว้นในเกมต่อหมาก{Handicap game})
- ฝ่ายดำจะได้เป็นฝ่ายวางหมากก่อน วางที่จุดตัดใดก็ได้บนกระดาน เมื่อฝ่ายดำวางแล้ว จะเป็นตาเดินของฝ่ายขาว ผลัดกันไปอย่างนี้ ทุกตา ตาละ 1 เม็ด
- เมื่อวางหมากลงไปแล้ว หมากที่วาง จะไม่มีการเดินเลื่อนเหมือนหมากฮอสหรือหมากรุก วางแล้วจะขยับไปไหนไม่ได้ ยกเว้นหมากจะถูกคู่ต่อสู้จับกิน จะต้องเป็นหมากเชลยของฝ่ายตรงข้าม (จะอธิบายเรื่องการจับกินอย่างละเอียดในหัวข้อต่อไป)
- ฝ่ายดำ ได้เดินหมากก่อน ถือว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะฉะนั้น จึงต้องมีแต้มต่อ เพื่อชดเชยความเสียเปรียบของฝ่ายขาวที่ให้ดำเดินก่อน โดยฝ่ายขาวจะได้คะแนนฟรี ๆ ไปจำนวนหนึ่ง เราเรียกคะแนนจำนวนนี้ว่า "แต้มต่อ (Komi)"ซึ่งปัจจุบันกำหนดมาตรฐานสำหรับกระดาน 19x19 ไว้ที่ 5.5 คะแนน แต้ม ต่อนี้จะนำไปบวกให้กับคะแนนสุทธิของฝ่ายขาวเมื่อจบเกม (แต้มต่อนี้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันก่อนเริ่มเกมได้ว่าจะให้แต้มต่อเท่าไร โดยมากนิยมกำหนดแต้มต่อให้มีเศษ 0.5 คะแนน เพื่อป้องกันการเสมอ)
กติกาในการจับกิน
- เมื่อหมากหรือกลุ่มหมากของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถูกล้อมโดยหมากของฝ่ายตรงข้ามอย่างประชิดตัว ทุกด้านและไม่มีช่องว่างภายในเหลือ ไม่ว่าจะที่กลางกระดาน ขอบข้างกระดานหรือมุมกระดาน หมากหรือกลุ่มหมากนั้นก็ถือว่าถูกจับกินตาย ต้องเก็บออกจากกระดาน แล้วนำไปเป็นหมาก เชลยของฝ่ายที่จับกินได้ ...ดูตัวอย่างแล้วจะเข้าใจยิ่งขึ้นครับ
รูปที่ 1.1
ในตัวอย่างรูปนี้ ขาว 1 เม็ด ถูกดำปิดล้อมเอา ไว้ ทั้งหมด 3 ด้านแล้ว
1. ดำได้ปิดล้อมขาวไว้ 3 ด้านแล้ว
2. เมื่อดำวางหมากที่ 1 ซึ่งปิดล้อมขาวอย่างประ ชิดตัวทุกด้าน ไม่เหลือช่องว่างภายใน ขาว 1 เม็ด ที่ถูกล้อมจะตาย
3. เมื่อ ขาว 1 เม็ดถูกจับกิน จะต้องถูกเก็บออก จากกระดาน เป็นหมากเชลยของฝ่ายดำ แสดงไว้ ดังรูป ( หมากเชลย จะมีผลต่อการนับคะแนน จะ อธิบายท้ายบท)
รูปที่ 1.2
ในตัวอย่างนี้ คล้ายกับตัวอย่างที่แล้ว แต่ตัวอย่างนี้ แสดงการจับกิน ที่ขอบริมกระดาน
1. ดำได้ ปิดล้อมขาวไว้ 2 ด้าน
2. เมื่อ ดำวางหมากที่ 1 ซึ่งปิดล้อมขาวอย่างประ ชิดตัวทุกด้าน ไม่เหลือช่องว่างภายใน ขาว 1 เม็ด ที่ถูกล้อมจะตาย ( ที่ริมขอบกระดาน ถือเป็นกำ แพงธรรมชาติ ดำจึงปิดล้อมเพียง 3 ด้าน ก็สามา รถจับกินขาวได้ )
3. เมื่อดำวางหมากที่ดำ 1 แล้ว ทำให้ขาว 1 เม็ด ถูกจับกิน จึงต้องเก็บออกจากกระดาน เป็นเชลย ของดำ
1
2
3
รูปที่ 1.3
ตัวอย่างนี้ เป็นการจับกินที่มุมกระดาน
1. ดำได้ปิดล้อมขาวไว้เพียงด้านเดียวเท่านั้น
2. เมื่อ ดำวางหมากที่ 1 ซึ่งปิดล้อมขาวอย่าง ประ ชิดตัวทุกด้าน ไม่เหลือช่องว่างภายใน ขาว 1 เม็ด ที่ถูกล้อมจะตาย ( ที่มุมกระดาน มีขอบกระดาน เป็นกำแพงธรรมชาติให้ถึง 2 ด้าน ดำจึงปิดล้อม เพียง 2 ด้าน ก็สามารถจับกินขาวได้ )
3. เมื่อดำวางหมากที่ดำ 1 แล้ว ทำให้ขาว 1 เม็ด ถูกจับกิน จึงต้องเก็บออกจากกระดานเป็นเชลย ของดำ แสดงไว้ดังภาพ
รูปที่ 1.4
รูปนี้ แสดงการจับกินกลุ่มหมากที่เป็นกลุ่มติดกัน หลายเม็ด
1. ดำปิดล้อมขาวไว้ทุกด้าน เหลือเพียงด้านเดียว ดำก็สามารถจับขาวกินได้
2. เมื่อดำวางหมากที่ 1 ซึ่งปิดล้อมขาวอย่างประ ชิดตัวทุกด้าน ไม่เหลือช่องว่างภายใน ขาวทั้งกลุ่ม ที่ถูกล้อมจะตายทั้งหมด
3. เมื่อดำวางหมากที่ดำ 1 แล้ว ทำให้กลุ่มขาว ถูกจับกิน จึงต้องเก็บออกจากกระดานเป็นเชลย ของดำ แสดงไว้ดังภาพ
รูปที่ 1.5
ในรูปนี้ เป็นการแสดงการจับกิน โดยขาววาง หมากขาว 1 จับกินดำทั้งกลุ่ม 6 เม็ด ดำทั้งหมด ต้องถูกนำออกจากกระดาน เป็นเชลยของขาว
รูปที่ 1.6
ในรูปนี้ เมื่อขาวเล่นที่ขาว 1 ซึ่งปิดล้อมดำหมด ทุกด้าน แต่ดำยังไม่ตายเพราะ เหลือช่องว่างภาย ในอีก 1 จุด ขาวต้องเล่นปิดช่องว่างภายในให้ หมดทุกจุด จึงสามารถจับกินดำได้ กลุ่มดำในรูป นี้จึงยังไม่ตาย แต่มันก็ไม่มีทางรอดแล้ว ในท้ายที่ สุดตอนจบเกม ดำกลุ่มนี้ก็ต้องเป็นเชลยของฝ่าย ขาว ( จะอธิบายละเอียดในหัวข้อกติกาหมากเป็น หมากตาย )
รูปที่ 1.7
แม้ว่ากลุ่มของดำ จะเลี้ยวมาชนขอบกระดานถึง 2 ด้าน แต่ขาวก็สามารถจับกินดำได้ ด้วยการล้อม ไม่ให้เหลือช่องว่างภายใน ดำก็จะตาย จะเห็นว่า กลุ่มดำชนขอบกระดาน 2 ด้าน ซึ่งทั้ง 2 ด้านนั้น ขาวไม่ต้องใช้หมากไปล้อมดำ ก็ถือว่าปิดล้อมได้ แล้ว ขอบกระดานจึงถือเป็นกำแพงธรรมชาติ
รูปที่ 1.8
สถานการณ์นี้ ขาวก็สามารถจับกินดำได้เช่นกัน โดยการเดินที่ขาว 1 ...เพราะดำทั้งกลุ่มถูกปิด ล้อม โดยไม่มีช่องว่างภายในเหลือแม้แต่จุดเดียว จึงทำให้ขาวจับดำทั้งกลุ่มกินได้ด้วยการเดินที่ขาว 1 ตามรูปนี้
* เมื่อ หมากหรือกลุ่มหมากใด ๆ ถูกปิดกั้นจุดโดยรอบตัวมันอย่างรัดตัว (ไม่มีจุดว่างภายใน) โดยหมากของฝ่ายตรงข้าม กลุ่มหมากนั้นจะถูกจับกิน จะต้องเป็นหมากเชลยของฝ่ายตรงข้าม
2. เมื่อฝ่ายใด วางหมากที่สามารถจับกินฝ่ายตรงข้ามในตาเล่นครั้งต่อไปได้ ผู้เล่นฝ่ายนั้น ต้องกล่าวคำว่า "อะตาริ ( Atari )" ซึ่ง คล้ายกับเตือนฝ่ายตรงข้ามว่า "ในตาต่อไป ผมสามารถจับ หมากคุณกินได้นะ" การกล่าวอะตารินี้ ไม่เชิงบังคับเป็นกฎว่าต้องกล่าว แต่เป็นการแสดงมาร ยาทของนักเล่นโกะ ที่จะไม่พยายามเอาชนะคู่ต่อสู้ ด้วยการฉวยโอกาสจากความเผอเรอของเขา เพราะโกะเป็นเกมกีฬาของสุภาพชนและปัญญาชน ที่แข่งขันกันด้วยปัญญา ไม่ใช่้ฉกฉวยโอกาส หาช่องเอาชนะ ...ดูตัวอย่างต่อไปนี้
รูปที่ 2.1
รูปนี้ เป็นตัวอย่างแสดงการกล่าวอะตาริ ดำวางหมากดำ 1 ซึ่งในตาเล่นของดำครั้ง ต่อไป ดำสามารถจับขาว 1 เม็ดกินได้ ด้วยการวางหมากที่จุด A เมื่อดำวาง ดำ 1 ดำจึงต้องกล่าวคำว่า "อะตาร"ิ ต่อฝ่ายขาว เพื่อเป็นการแสดงมารยาท
*จำไว้ว่า เมื่อคุณวางหมากที่สามารถจับหมากหรือกลุ่มหมากคู่ต่อสู้กินได้ในตาเดินครั้งต่อไป คุณจะต้องกล่าว "อะตาริ"
รูปที่ 2.2
รูปนี้ก็เช่นกัน ดำเล่นหมากที่ดำ 1 ขู่ว่า ในตาดำเล่นครั้งต่อไป ดำสามารถเล่นที่ A เพื่อจับขาว 1 เม็ดกินได้ ดำต้องกล่าว "อะตาริ"
รูปที่ 2.3
ตัวอย่างนี้ก็เช่นเดียวกัน ดำ 1 ขู่จะจับขาวกินในตาเล่นครั้งต่อไปที่จุด A ดำต้อง กล่าว "อะตาริ"
รูปที่ 2.4
เมื่อดำเล่นหมากที่ดำ 1 ในรูปนี้ ดำก็ต้องกล่าว "อะตาริ" เช่นกัน เพราะดำ 1 ขู่ว่า ดำสามารถจับขาว 1 เม็ดกินได้ด้วยการเล่นที่ A
รูปที่ 2.5
ในสถานการณ์แบบนี้ก็เช่นกัน เมื่อขาวเล่นที่ขาว 1 ขาวก็ต้องกล่าว "อะตาริ" เพราะ ในตาต่อไปขาวสามารถเล่นที่ A เพื่อจับดำทั้งกลุ่มกินได้
* เมื่อเดินหมากที่สามารถจับคู่ต่อสู้กิน ในการเดินครั้งต่อไปได้ จะต้องกล่าวคำว่า "อะตาริ"
[ Top ]
กติกาหมากเชลย
หมากเชลย คือ หมากหรือกลุ่มหมากที่ถูกจับกิน ต้องนำออกจากกระดานเป็นเชลยของฝ่ายตรงข้าม ( จะรวบรวมไว้ แล้วมีผลในการนับคะแนนตอนจบเกม ...รายละเอียดการนับคะแนน จะอธิบายในหัวข้อการนับ คะแนน ) หมากเชลยของดำ ก็คือหมากขาวที่ถูกดำจับกินได้ ส่วนหมากเชลยของขาว ก็คือหมากดำที่ถูกขาว จับกินได้ ...ตามมารยาทแล้ว ควรจะเก็บหมากเชลยไว้ในฝาของกระปุกเม็ดหมากของตน ใส่ไว้ให้คู่ต่อสู้มอง เห็นได้ชัดเจน ( ถ้าไม่มีฝากระปุกใส่เม็ดหมาก ก็ใส่ในที่อื่น ที่คู่ต่อสู้มองเห็นได้ชัดเจน )
[ Top ]
กติกาหมากเป็น-หมากตาย
- ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถเล่น หมาก ในจุดที่จะทำให้หมากหรือกลุ่มหมากของฝ่ายตนเองถูก ล้อมโดยประชิดตัวทุกด้านและไม่เหลือช่องว่างภายใน ( ถูกล้อมโดยสมบูรณ ์) กล่าวสั้น ๆ คือ "ห้ามเล่นหมากที่ฆ่าตัวตาย"
ยกเว้น : แต่การเดินนั้นจะทำให้คู่ต่อสู้ตายทันที (จับกินคู่ต่อสู้ทันที) ...ดูตัวอย่าง
รูปที่ 3.1
ขาวไม่สามารถวางหมากที่ A, B และ C ได้ เพราะทำให้ หมากของตนเอง ถูกล้อมโดยประชิดตัวทุกด้านและไม่ เหลือช่องว่างภายใน ( ถูกล้อมโดยสมบูรณ ์) ถือเป็นการ ฆ่าตัวตาย ผิดกติกา
...จุด A, B และ C เราเรียกว่าเป็น "ห้อง" ของดำ
รูปที่ 3.2
รูปนี้ก็เช่นกัน ขาวไม่สามารถวางหมากที่ A, B และ C ได้ เพราะทำให้ตนเองถูกล้อมโดยสมบูรณ์ เป็นการฆ่าตัวตาย
รูปที่ 3.3
รูป นี้ ขาวมี 1 ห้องที่จุด A แต่ขาวโดยปิดล้อมทุกด้านอย่าง ประชิดตัว ไม่เหลือช่องว่างภายในแล้ว ดำสามารถวาง หมากที่จุด A ได้โดยไม่ผิดกติกา เพราะมันจะทำให้ขาว ทั้งกลุ่มถูกจับกินทันที ต้องเป็นเชลยของดำ ในทางกลับ กัน ขาวต่างหากที่เล่นที่จุด A ไม่ได้ เพราะเป็นการฆ่า ตัวตาย
รูปที่ 3.4
รูปนี้ก็เช่นกัน ขาวมีห้องที่จุด A แต่ขาวถูกปิดล้อมทุกด้าน อย่างรัดตัวแล้ว ดำสามารถวางหมากที่ A แล้วจับขาวทั้ง หมดกินเป็นเชลยได้ทันที
รูปที่ 3.5
นี่ก็เหมือนกันครับ ดำสามารถวางที่ A เพื่อจับขาวทั้งกลุ่ม กินได้ทันที ไม่ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
รูปที่ 3.6
รูปนี้ จะเห็นว่าขาวมีห้อง 2 ห้องคือ ที่ A และ B แม้ว่าดำ จะล้อมขาวไว้โดยรอบแล้ว แต่ดำวางหมากที่จุด A หรือ B ไม่ได้ เพราะถือเป็นการฆ่าตัวตาย ขาวกลุ่มนี้จึงไม่มีวัน ตายและมีชีวิตอยู่ตลอดไปจนจบเกม
จึงสรุปได้ว่า "กลุ่มหมากที่มี 2 ห้องแยกจากกัน จะมีชีวิต"
รูปที่ 3.7
รูปนี้ ขาวมี 2 ห้องที่ A และ B เป็นห้องที่อยู่ด้านข้างกระ ดาน ขาวมี 2 ห้อง ขาวจึงมีชีวิตรอดเช่นกัน
รูปที่ 3.8
นี่เป็นห้องที่มุมกระดานของขาว รูปนี้ขาวก็มี 2 ห้อง คือ A และ B ขาวจึงมีชีวิตรอด
* กลุ่มหมากที่มี 2 ห้องจะมีชีวิต ไม่มีวันตาย ...แต่กลุ่มหมากที่มีห้องเดียว หรือไม่มี ห้องเลย เมื่อจบเกมจะต้องตายในที่สุด
การจบเกม
- เกมจะจบลง เมื่อผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย ขอผ่านตาเล่นติดต่อกัน 2 ครั้ง โดย ปกติแล้วการเดินหมากแต่ ละตาถือว่ามีความสำคัญมาก ผู้เล่นมักขอผ่านเมื่อเห็นว่าวางหมากที่ใดก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อ ไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ผู้เล่นจะขอผ่านระหว่างช่วงที่เกมยังไม่จบ เพราะนั่นหมายความว่าจะทำให้ คู่ต่อสู้ได้เดินหมากฟรีอีก 1 เม็ด ไม่มีนักเล่นโกะคนไหนที่ผ่านตาเล่นของตัวเองขณะที่เกมยังไม่ จบหรอกครับ
รูปที่ 4.1
ในตัวอย่างนี้ เป็นการเล่นแข่งขันจริงจนจบกระดานแล้วเพราะทั้งฝ่ายขาวและดำ เห็นว่า แม้จะวาง หมากไปอีก ก็ไม่มีประโยชน์ ทั้ง 2 ฝ่ายจึง ขอผ่านตาเล่นติดกัน 2 ครั้ง ...เป็นการสิ้น สุดเกม (...ดูข้อต่อไป)
* เกมจะสิ้นสุดลง เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายขอผ่านติดกัน 2 ครั้ง ...เพราะทั้ง 2 ฝ่ายเห็นว่าวางหมาก อีกก็ไม่มีประโยชน์
- เมื่อเล่นหมากจนจบเกมแล้ว ...หมากหรือกลุ่มหมากใดก็ตาม ที่ไม่สามารถสร้าง 2 ห้องที่แยก จากกัน ( ตามที่กล่าวข้อที่แล้ว ) และไม่ว่าจะเล่นหมากอย่างไรก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจับกิน ของคู่ต่อสู้เพื่อ ทำให้ตนเองมีชีวิตรอดได้ จะต้องถือว่ากลุ่มหมากนั้นตาย ต้องเก็บออกจาก กระดาน เป็นเชลยฝ่ายตรงข้าม โดยฝ่ายตรงข้ามไม่จำเป็นต้องเล่นหมากล้อมจับกิน
[ Top ]
การนับคะแนนตัดสิน
- การนับคะแนนนั้นมีอยู่หลายวิธี เช่น การนับแบบญี่ปุ่น , การนับแบบจีน , การนับแบบอิ้งชางฉี ฯลฯ ซึ่ง มีวิธีการนับแตกต่างกัน แต่ผลต่างแพ้ชนะของเกมจะออกมาเท่ากันเสมอ ไม่ว่าจะนับแบบใดก็็ ตาม จึงไม่สำคัญว่าจะยึดหลักการนับคะแนนแบบใด แต่การนับคะแนนที่นิยมกันมากที่สุดคือ การนับ คะแนนแบบญี่ปุ่น
- การนับคะแนนแบบญี่ปุ่น เมื่อ เกมจบลง ( ตามที่อธิบายในหัวข้อ "การจบเกม" ) ให้นำกลุ่มหมากที่ ถือว่าตายออกมารวมกับเชลยของแต่ละฝ่ายที่มีอยู่ แล้วนับคะแนน โดยนับจุดพื้นที่ ( จุดตัดว่าง ) ที่ แต่ละฝ่ายล้อมได้ทุกจุด แล้วนำจำนวนหมากเชลยที่ฝ่ายตรงข้ามจับกินได้ มาหักลบออกจากพื้นที่ ของฝ่ายที่ถูกจับกิน แล้วเปรียบเทียบคะแนน ฝ่ายใดได้คะแนนมากกว่าจะถือว่าชนะ อย่าลืมเอาแต้ม ต่อ ( Komi ) มาบวกให้กับคะแนนของฝ่ายขาวด้วยละครับ ( แต้มต่อนี้ปัจจุบันกำหนด มาตรฐานสำหรับ กระดาน 19 x 19 ไว้ที่ 5.5 คะแนน )
หมากเชลยของฝ่ายดำ =
หมากเชลยของฝ่ายขาว =
แต้มต่อ (Komi) = 5.5 คะแนน
รูปที่ 6.1 นับคะแนนแบบญี่ปุ่น
นี่เป็นตัวอย่างการเล่นโกะในการแข่งขันจริง ซึ่งเล่นจบกระดานแล้ว ในรูปนี้ได้เอาหมากที่ ตายออกมารวมกับเชลยของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว
การนับคะแนน นับโดยนำคะแนนพื้นที่ลบด้วย หมากเชลยที่ฝ่ายตรงข้ามกินได้ เป็นคะแนน สุทธิของแต่ละฝ่าย
** ต้องบวกแต้มต่อ (Komi) ให้ฝ่ายขาวด้วย
ตัวอย่างรูปนี้ : ฝ่ายดำได้พื้นที่ 47 จุด ( ในรูป แสดงด้วยสี่เหลี่ยมสีดำ )ฝ่ายขาวได้พื้นที่ 100 จุด ( ในรูปแสดงด้วยสี่เหลี่ยมสีขาว ) หมาก
เชลยของขาวมีทั้งหมด 8 เม็ด ; ของดำมี 12 เม็ด
คะแนนขาว : 100 - 8 = 92 คะแนน
คะแนนดำ : 47 - 12 + 5.5 = 40.5 คะแนน
สรุปผล : ฝ่ายขาวชนะดำ 51.5 แต้ม ( 92-40.5 )
* นับคะแนนแบบญี่ปุ่น = พื้นที่ - หมากเชลยที่คู่ต่อสู้กินได้ + แต้มต่อ ( เฉพาะฝ่ายขาว )
3.1 การนับแบบจีน จะไม่นำหมากเชลยมาหักลบออกจากคะแนนพื้นที่
3.2 การนับแบบจีน จะนับทั้งคะแนนพื้นที่และเม็ดหมากทั้งหมดที่อยู่บนกระดานด้วย
การนับทั้งแบบจีนและแบบญี่ปุ่น แม้รวมคะแนนแล้ว จะออกมาต่างกัน แต่ผลต่าง คะแนนแพ้ชนะจะเท่ากันเสมอครับ
[ Top ]
กติกาสถานการณ์โคะ (Ko)
- มีสถานการณ์หนึ่ง ซึ่งผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย สามารถจับกินกันกลับไปกลับมาได้ไม่สิ้นสุด เรียกสถาน การณ์นี้ว่า "โคะ (Ko)" จึงมีการกำหนดกติกาเกี่ยวกับสถานการณ์โคะไว้ว่า ...ถ้า ผู้เล่นฝ่ายหนึ่งจับกินหมากในสถานการณ์โคะแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งจะจับกินคืนในทันทีไม่ได้ เว้น แต่ต้องนำหมากไปเล่นที่อื่นอย่างน้อย 1 ตาก่อน แล้วจึงกลับมาจับกินโคะคืนได้ ...ดูตัวอย่างเพื่อความเข้าใจครับ
รูปที่ 7.1
ในรูปนี้เป็นตัวอย่างสถานการณ์โคะครับ ...ดูรูปต่อไป
รูปที่ 7.2
เหตุการณ์ต่อจากรูปที่แล้ว ...ดำวางหมากดำ 1 จับขาวกินไป 1 เม็ดดังรูป ทำให้เกิดสถานการณ์โคะขึ้นมาแล้ว
รูปที่ 7.3
ต่อจากรูปที่แล้ว ...ขาวจะวางหมากขาว 2 ตามรูปนี้ เพื่อจับดำ 1 กินทันทีไม่ได้ แต่ต้องนำหมากขาว 2 ไปวางที่อื่นก่อน อย่างน้อย 1 ตาก่อน จึงสามารถกลับมาวางหมากกินโคะได้ (กินโคะในตัวอย่างนี้หมายถึงกินดำ 1)
* ขาว 2 , ดำ 3 ไปเล่นในส่วนอื่นของกระดาน
รูปที่ 7.4
ต่อจากรูปที่ 7.2 ...ตามกติกาโคะ ขาวต้องนำหมากไปเล่นที่ อื่นอย่างน้อย 1 ตาก่อนจึงจะกลับมากินโคะได้ ...ตามรูปนี้ ขาว 2 ไปเล่นในส่วนอื่นของกระดาน ...ดำ 3 ก็เช่นกัน ...ขาว 4 จึง กลับมากินโคะ (ดำ 1) ได้
รูปที่ 7.5
โคะเกิดได้ทุกส่วนของกระดาน ...ในตัวอย่างนี้แสดงตัวอย่างโคะที่เกิดขึ้นริมขอบกระดานครับ ...ดูรูปต่อไป
รูปที่ 7.6
เมื่อดำจับขาวกินด้วยดำ 1 ...ดูรูปต่อไป
* ขาว 2 , ดำ 3 ไปเล่นที่ส่วนอื่นของกระดาน
รูปที่ 7.7
ขาวจะกินโคะด้วยขาว 2 ทันทีไม่ได้ ต้องนำหมากไปเล่นที่อื่น ก่อน ...ในรูปนี้ ขาว 2 และดำ 3 ไปเล่นส่วนอื่นของกระดาน ...ขาว 4 จึงมีโอกาสกลับมากินโคะได้
รูปที่ 7.8
โคะเกิดได้ทุกส่วนของกระดาน ...ในตัวอย่างนี้แสดงตัวอย่างโคะที่เกิดขึ้นริมขอบกระดานครับ ...ดูรูปต่อไป
รูปที่ 7.9
เมื่อดำจับขาวกินด้วยดำ 1 ...ดูรูปต่อไป
* ขาว 2 , ดำ 3 ไปเล่นที่ส่วนอื่นของกระดาน
รูปที่ 7.10
ขาวจะกินโคะด้วยขาว 2 ทันทีไม่ได้ ต้องนำหมากไปเล่นที่อื่น ก่อน ...ในรูปนี้ ขาว 2 และดำ 3 ไปเล่นส่วนอื่นของกระดาน ...ขาว 4 จึงมีโอกาสกลับมากินโคะได้
โคะสามารถเกิดได้ทั้งที่กลางกระดาน , ริมขอบกระดาน , มุมกระดาน ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกัน
* เมื่อฝ่ายหนึ่งกินโคะ อีกฝ่ายจะกินคืนทันทีไม่ได้ ...ต้องนำหมากไปเล่นที่อื่นอย่างน้อย 1 ตาก่อน จึงกลับมากินโคะได้
กติกาสถานการณ์ต่างรอด (Seki)
- มีสถานการณ์หนึ่งที่กลุ่มหมากของผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายไม่มี 2 ห้องทั้งคู่ แต่กลุ่มหมากของทั้ง 2 ฝ่ายก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการอิงอาศัยกลุ่มหมากของอีกฝ่ายหนึ่ง ...ซึ่งในสถานการณ์นี้ ผู้ เล่นทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่สามารถอะตาริเพื่อหวังจับกินกลุ่มหมากของฝ่ายตรงข้ามได้ เพราะจะมีผล ทำให้กลุ่มหมากของตนเองถูกจับกินทันที ...ในสถานการณ์ต่างรอด (Seki) นี้ เมื่อจบเกมจะ ถือว่ากลุ่มหมากของทั้ง 2 ฝ่าย มีชีวิตไม่ตายทั้งคู่ และพื้นที่ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นี้จะไม่นับ คะแนน ถือว่ามีพื้นที่เป็น 0 คะแนน ( แต่พื้นที่ที่เป็นห้องของแต่ละฝ่าย จะต้องนับรวมคะแนน ด้วยและหมากเชลยที่ถูกจับกิน ก็จะต้องนำมารวมนับคะแนนตามปกติด้วย ) ...ดูตัวอย่างครับ
รูปที่ 8.1
รูปนี้เป็นสถานการณ์ต่างรอด ที่เกิดขึ้นกลางกระดาน ...ทั้งฝ่ายขาวและฝ่ายดำไม่สามารถวางหมากที่ A หรือ B เพื่ออะตาริคู่ต่อสู้ได้ เพราะจะทำให้คู่ต่อสู้จับกินได้ทันที ...สถานการณ์นี้ จึงเป็นสถานการณ์ต่างรอด (Seki)
...ถ้าเล่น A จะถูกจับกินที่ B หรือถ้าเล่น B จะถูกจับกินที่ A
รูปที่ 8.2
นี่ก็เป็นสถานการณ์ต่างรอดครับ แต่นี่เกิดที่ริมกระดาน ...ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถวางหมากที่ A หรือ B เพื่ออะตาริ ิคู่ต่อสู้ได้ เพราะจะทำให้หมากตัวเองถูกจับกิน เช่นเดียว กับรูปที่แล้วครับ
...ถ้าเล่น A จะถูกจับกินที่ B หรือถ้าเล่น B จะถูกจับกินที่ A
รูปที่ 8.3
นี่ก็เป็นสถานการณ์ต่างรอดที่เกิดที่มุมกระดานครับ ...ดำไม่สามารถวางหมากที่ A เพื่ออะตาริขาวได้ เพราะ ขาวจะสามารถจับกินดำที่ B ได้ ...ฝ่ายขาวก็ไม่สามารถวางหมากที่ A เพื่ออะตาริดำได้ เช่นกัน เพราะดำจะจับกินที่ C
** จุด B เป็นพื้นที่ของดำ (1 คะแนน)
จุด C เป็นพื้นที่ของขาว (1 คะแนน)
จุด A ไม่นับคะแนน
* เมื่อจบเกม หมากของทั้ง 2 ฝ่ายในสถานการณ์ต่างรอด จะถือว่ารอดทั้งคู่ และดิน แดนภายในสถานการณ์นี้จะไม่นับคะแนน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(Atom)
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
About Me
คลังบทความของบล็อก
ป้ายกำกับ
Howto
(3)
หมากล้อม
(3)
Baduk News
(1)
Rule of baduk
(1)
Tesuji
(1)
World Mind Championship 2011
(1)
กติกาการเล่นหมากล้อม
(1)
กีฬาเยาชนแห่งชาติ
(1)
กีฬาแห่งชาติหมากล้อม
(1)
ประวัติหมากล้อม
(1)
หยัง
(1)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
หัดเล่นหมากล้อมผ่านอินเตอร์เน็ตที่ไหนดี 1. wbaduk (cyberoro) - http://www.wbaduk.com/ เล่นหมากล้อมกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เล่นสนุกคนเล่นเยอะ...
-
จะมีการแข่งขันระหว่าง Pro และคอมพิวเตอร์หมากล้อม อีกครั้ง หนังสือพิมพ์ Sankei ให้ความสนใจในการมีการแข่งขันระหว่างผู้เล่นชั้นนำแล...
-
ผมยาวแล้วแฮะ ลีเชดอล !!! ลี เชดอล ไร้พ่าย !!! - Unbeatable player Lee SeDol Lee SeDol won against Lee ChangHo by 3 to 1
-
ถ้าพึ่งหัดเล่น และยังไม่รู้กติกาโกะอะไรเลย ให้ศึกษาเรียงลำดับตามนี้ทีละข้อ เพื่อความเข้าใจก่อนการเล่นหมากล้อม ส่วนใครถ้าเคยได้ยินกติกาหม...
-
วันนี้ เป็นวันมหาศิริ มงคล 5 ธันวามหาราชย์ หรือที่ภาษาปาก ก็วันพ่อนั่นเอง คาดว่าหลายๆ ท่าน คงใช้ช่วงเวลาวันหยุด มีคว...
-
ผ่านพ้นไปเเล้วนะครับ สำหรับ มหกรรมกีฬาเยาวชนเเห่งชาติครั้งที่ 28 ภูเก็ตเกมส์ ซึ่งขัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม -5 มิถุนายน ที่ผ่านมานี้ ...
-
สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับหมากล้อมเลย ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนหมากล้อมกันจริงๆจังนั้น ก็ควรที่จะทราบถึง เรื่องราวความเป็นมา ป...
-
สวัสดีครับ ห่างหายไปนานพอควรจากการอัพเดทเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับหมากล้อมนะครับ เนื่องด้วย ผู้เขียน ติดภารกิจ พอสมควร มีงานเเข่งรวมไปถึงปฏิบ...
-
ทักษะทางปัญญาที่ได้รับจากการเล่นหมากล้อม 11 ประการ การเล่นหมากล้อมเป็นประจำจะช่วยฝึกนิสัย ทัศนคติ ดังนี้ 1. การวางแผนเเละตัดสินใจโด...
-
Tesuji of the year! - หมากเด็ดประจำปี (ฮา) !! เรามาดูเกมส์นี้กันครับ จากเกมส์จริงคือ หมากขาวจะโดนหมากดำจับกินบันไดแล้ว จึงเล่นหมากขาว N...
0 comments:
แสดงความคิดเห็น