มาหัดเล่นหมากล้อม(โกะ) กันเถอะ

สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับหมากล้อมเลย

ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนหมากล้อมกันจริงๆจังนั้น ก็ควรที่จะทราบถึง

เรื่องราวความเป็นมา ประวัติ ของหมากล้อมเสียก่อนครับ..

ประวัติหมากล้อม
     ว่ากันว่าตามตำนานนั้น ศิลปะแห่งเกมหมากล้อมได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศจีน โดยพระเจ้าเหยาตี้ กษัตริย์ในยุคตำนานของแผ่นดินจีน ( เมื่อราว 2300-1600 ปีก่อนพุทธศักราช ) ได้คิดค้นเกมหมากล้อมขึ้นเพื่อใช้พัฒนาสติปัญญาของพระโอรส แต่ในความเป็นจริงนั้นข้อสันนิฐานนั้นมีหลายกระแส เนื่องจากหลักฐานทางวรรณคดียังไม่อาจที่จะชี้ชัดลงไปได้อย่างชัดเจน ซึ่งเราก็คงยังต้องรอกันต่อไปถึงข้อสันนิฐานอันแน่ชัดนี้ แต่สิ่งที่ดูจะเป็นวิทยาศาสตร์และน่าเชื่อถือที่สุดก็คงจะเป็นว่า หมากล้อมนั้นถือกำเนิดจาก “โต๊ะทราย” ที่ใช้ในการวางแผนการทางยุทธศาสตร์ในสมัยโบราณกาลของชาวจีนจนมีคำกล่าวที่ว่า “ศาสตร์แห่งหมากล้อม คือศาสตร์แห่งการรบ”

อิทธิพลแห่งเม็ดหมากล้อม
     หมากล้อมนั้นอยู่คู่กับคนจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว เรื่อยมาตั้งแต่ยุค ชุนชิว-จ้านกั๋ว ผ่านการเดินทางมาหลายราชวงศ์ตั้งแต่ ราชวงศ์ฮั่นตลอดมาจนมาถึงยุคทองของราชวงศ์จีนครับ ซึ่งก็คือยุคแห่งราชวงศ์ถังนั่นเอง ซึ่งในยุคนี้เป็นช่วงเวลาที่อิทธิพลของเม็ดหมากล้อมได้แผ่ขยายไปตามความเจริญรุ่งเรืองของชาวจีน ซึ่งมีผลทำให้ศิลปะแห่งกลยุทธ์ชิ้นนี้ได้ ถูกเผยแพร่ผ่านไปถึง ดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่น และแดนกิมจิอย่างเกาหลีจนมาถึงปัจจุบันเลยทีเดียวครับ ซึ่งความยิ่งใหญ่ของศิลปะหมากล้อมในยุคราชวงศ์ถึงนี้ ถึงกับได้ถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 4 ศาสตร์ที่บัณฑิตต้องเรียนรู้ ควบคู่ไปกับ ดนตรี การวาดภาพ และการเขียนตัวอักษร

     แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าชาวญี่ปุ่นนั้นจะได้รู้จักกับศิลปะแห่งเกมหมากล้อมมายาวนานถึง 1,800 ปีมาแล้วก็ตาม แต่ช่วงเวลาที่ศิลปะแห่งเกมหมากล้อมนั้นได้แทรกซึมลงไปในหัวใจและจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 400 กว่าปีที่แล้วเท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากที่โชกุน โตกุกาวา อิเอยาสึ ได้สามรถทำการรวบรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นได้แล้วจึงได้มีการสนับสนุนการเล่นหมากล้อมอย่างจริงจัง โดยสนับสนุนให้ แม่ทัพ นายกองทั้งหลายหันมาใช้การรบทางปัญญา แทนการใช้กำลังเพียงอย่างเดียว จากการศึกษาศิลปะแห่งเกมหมากล้อมชิ้นนี้ หลังจากนั้นเป็นต้นมาญี่ปุ่นจึงกลายเป็นแผ่นดินทองแห่งหมากล้อม และได้กลายเป็นศิลปะแห่งภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นจวบ

Takemiya Masaki (9 Dan Japan) กล่าวไว้ว่า  "หมากล้อมคือของขวัญจากพระเจ้า (Go is a gift from God.)" เหล่ามืออาชีพหมากล้อมทั้งหลายต่างพากันหาตาเดินที่ดีที่สุด และคิดว่าได้เข้าใกล้ตาเดินนั้นแล้ว แต่ทว่ายังมีความเป็นไปได้อีกมากมายในการเล่นหมากล้อม เมื่อมองจากด้านบนของโลกมันดูเหมือนไม่มีขีดจำกัดเลยทีเดียว

      นอกจากนี้ ยังมีการ์ตูนหมากล้อม ซึ่งเชื่อว่า ท่านๆน่าจะรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้เป็นอย่างดี นั่นคือ ฮิคารุ เซียนโกะนั่นเอง (ผู้เขียนเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เริ่มเล่นโกะก็เพราะการ์ตูนเรื่องนี้) ใครที่ยังไม่เคยอ่านก็นับว่าท่านพลาดการ์ตูน ดีดี ไปเรื่องนึงทีเดียวครับ..

      ปัจจุบัน หมากล้อม ก็ก้าวผ่านกาลเวลามานานมากกก ไม่ต่างจากสิ่งก่อสร้างทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น ปิรามิดหรือ กำเเพงเมืองจีน ดังนั้น หากจะบอกว่า หมากล้อมเป็นอีกหนึ่ง สิ่งทรงคุณค่า ก็คงไม่ผิดนัก...

     ซึ่งหากเราไปถามชาวจีนว่า หมากล้อมคืออะไร ก็จะเป็นที่เข้าใจในหมู่คนจีนว่า
หมากล้อมคือศิลปะแขนงหนึ่งในศิลปะจำนวน 4 แขนงของจีนที่สืบทอดมาแต่โบราณ
อันได้แก่การดีดพิณ การเดินหมากกระดาน การเขียนพู่กัน และการวาดรูป
ซึ่งหมากกระดานในที่นี้ หมายถึงหมากล้อมนั่นเอง

      อาจจะกล่าวได้ว่า หมากล้อมนอกจากจะมีประโยชน์ทางด้านศาสตร์(กลยุทธ์ ยุทธศาสตร์)
ยังมีคุณค่าทางศิลป์อีกด้วย

อะไร ที่ทำให้หมากล้อม คงอยู่ผ่านกาลเวลาเนิ่นนานนับพันปี...

อะไร ที่ทำให้ ผู้คนหลงไหลเเละเล่นหมากล้อมมามาย..

เสน่ห์ที่น่าหลงไหล

ความสนุกที่น่าติดตาม ตื่นเต้นไปกับเกม อยุ่ที่ไหน..

มาลองหัดเล่นกันดูครับ..

แล้วท่านจะรู้....